อ่านตรงนี้ก่อน :: 20 May 2002 :: ประธานของประโยค ::
 
5 เรื่องล่าสุด
 
เรื่องเก่าๆ แบ่งตามหัวข้อย่อย
English
SGfSE
@Work
F.L.T.  **Update**
Health
Miscellaneous
 
แสดงความคิดเห็น
เกสต์บุ๊ค
เว็บบอร์ด
 
ผู้สนับสนุน
ไดอารี่แลนด์
 
:: English (from Webboard) ::

จากเว็บบอร์ดภาษาอังกฤษ


nitchawan
YaBB Administrator
ประธานของประโยค
« on: May 20th, 2002, 5:20pm »

วันก่อนเขียนไปว่าเวลาพูดภาษาอังกฤษต้องให้เป็นประโยค มีประธาน กริยา กรรม วันนี้เรามามั่วเรื่อง ประธานของประโยค ให้ฟังดีกว่า

1. คำที่จะมาเป็นประธานของประโยคเป็นได้ทั้ง คน สัตว์ สิ่งของ

เช่น A man, A tiger, A table ซึ่งคำพวกนี้ก็จะเป็นคำที่เป็นคำนาม (noun)

2. คำที่เป็นกริยาจะทำหน้าที่เป็นประธานก็ได้ แต่ต้องมีการเปลี่ยนรูปมันไปเป็นคำนาม หรือเติม ing ให้มัน

เช่น write เป็นคำกริยา คำนามที่เกี่ยวข้องกับ write ที่จะมาเป็นประธานของประโยค คือ writer หรือ writing
The writer (of this article) is very smart. (เป็นตัวอย่างที่เป็นความจริงที่สุดในโลกเลยนะเนี่ย 5555 )
This writing is very informative. (ยกตัวอย่างดีอีกแล้วววว 5555 )

หรือ eat เป็นคำกริยา คำนามที่เกี่ยวข้องที่จะมาเป็นประธานของประโยค คือ eating กับ eater
The meat-eaters are also called carnivores. (carnivore คือสัตว์กินเนื้อ ถ้าสัตว์กินพืชเรียกว่า herbivore)
Eating is not allowed in the conference room. (ประโยคนี้ยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างเฉยๆ แต่จริงเขาไม่ใช้กัน ถ้าจะใช้ในความหมายนี้ เขาจะพูดว่า Food is not allowed in the conference room. มากกว่า)

ในกรณีที่เอาคำกริยามาเป็นประธานนี้ เราลองเทียบกับภาษาไทยก็จะคล้ายๆ กัน คือ เรามีคำว่า เขียน เป็นกริยา แล้วก็มี นักเขียน กับ การเขียน เป็นคำนามที่จะเอามาใช้เป็นประธานของประโยค

3. ประธานของประโยคเป็นสรรพนามก็ได้
สรรพนาม ก็คือ คำแทนนาม มีทั้งสรรพนามบุรุษที่ 1 (I, We) สรรพนามบุรุษที่ 2 (He, She, It, They) เวลาใช้เป็นประธานปกติก็ไม่ยากอะไร

I am a stupid engineer. We go to Siam Square by BTS.
She speaks English very well. He plays tennis and basketball.

ปัญหาของการใช้คำสรรพนามที่เราเจอบ่อยๆ ไม่ได้อยู่ที่ประโยคเดี่ยวๆ แบบที่ยกตัวอย่างมา แต่เป็นประโยคต่อเนื่อง เช่น

a. The books on that shelf are new. They just arrived yesterday.
b. This car is not mine. It belongs to my sister.
c. My sister and I went to see Spiderman last night. We liked it very much.

สังเกตว่าประโยคที่ 2 ของทุกข้อมีสรรพนามเป็นประธานของประโยค ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กับประโยคแรก ประโยคที่เราจะพูดผิดบ่อยๆ คือ ประโยคข้อ a. ที่มักจะเผลอ พูดว่า The books on that shelf are new. It just arrived yesterday. ซึ่งอันนี้เป็นความเคยชินจากภาษาไทย ที่เราจะไม่มีพหูพจน์ของ คำว่า "มัน" หนังสือเล่มเดียวก็ "มัน" หนังสือหลายเล่มก็ "มัน"

4. คำอื่นๆ ก็เป็นประธานของประโยคได้ เช่น There ซึ่งมักจะใช้คู่กับ Verb to be มีความหมายว่า "มี" ซึ่งก็จะคล้ายๆ กับในประโยคภาษาไทยเวลาเราจะบอกถึงสิ่งที่มีอยู่ในโลกนี้ หรือมีอยู่ในที่ต่างๆ

เช่น There are two types of employees, "stupid and hardworking" type and "smart and lazy" type.
There are two cars in that garage.
There is a pencil on the table.

ประโยคแรกบอกความมีอยู่ในความหมายกว้างๆ เลยไม่ต้องมีส่วนขยายมาบอกว่า มีอยู่ที่ไหน ส่วน 2 ประโยคหลังมีส่วนขยายมาบอกว่า มีรถ 2 คันอยู่ในโรงรถนั่น หรือมีดินสอแท่งหนึ่งอยู่บนโต๊ะ

เวลาที่ใช้คำว่า There สำหรับบอกสิ่งของที่มีอยู่ อย่าลืมว่าต้องใช้ verb สัมพันกับสิ่งที่มีอยู่ด้วย คือ There is/was ใช้กับคำนามเอกพจน์ ส่วน There are/were ใช้กับคำนามเอกพจน์

คิดว่าวันนี้มั่วได้ที่แล้ว เพราะฉะนั้นพอก่อนดีกว่า