อ่านตรงนี้ก่อน :: Saturday, Apr. 03, 2004 :: เอพริลฟูลส์เดย์ (April Fool's Day) ::
 
5 เรื่องล่าสุด
 
เรื่องเก่าๆ แบ่งตามหัวข้อย่อย
English
SGfSE
@Work
F.L.T.  **Update**
Health
Miscellaneous
 
แสดงความคิดเห็น
เกสต์บุ๊ค
เว็บบอร์ด
 
ผู้สนับสนุน
ไดอารี่แลนด์
 
:: 09:40 ::

วันเอพริลฟูลส์เดย์ (April Fool's Day) หรือวันโกหกหลอกลวงของฝรั่ง คือวันที่ ๑ ของเดือนเมษายน เป็นวันที่พวกฝรั่งเขาจะโกหกเล่นมุขแกล้งคนกันต่างๆนานา

ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าฝรั่งเริ่มเล่นตลกแกล้งกันในวัน April Fool's ครั้งแรกปีไหน แต่น่าจะมีต้นกำเนิดในช่วงสมัยคริสต์ศตวรรรษที่ ๑๖ (มีบางที่อ้างว่าเป็นปีค.ศ. ๑๕๘๒) ในประเทศฝรั่งเศสซึ่งเดิมการเปลี่ยนปีและฉลองขึ้นปีใหม่จะทำกันในเดือนเมษา (เขาว่ากันว่าฉลองปีใหม่ประมาณ ๑ สัปดาห์ เริ่มจากวันที่ ๒๕ มีนาคม)

พอมาถึงสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ ๙ ได้มีการเปลี่ยนมาใช้ปีใหม่เป็นวันที่ ๑ มกราคมแทน แต่เนื่องจากสมัยก่อนการคมนาคมยังไม่ดี การส่งข่าวสารก็ล่าช้า (มากกกก...) ผ่านไปสองสามปียังมีคนบางคนไม่รู้เลยว่าเขาเปลี่ยนปีใหม่ไปอยู่เดือนมกราแล้ว

คนพวกนี้ก็เลยยังฉลองปีใหม่กันวันที่ ๑ เมษา (ถ้าเป็นแบบไทยก็ต้องบอกว่า อยู่หลังเขา หรือ ไกลปืนเที่ยง) เป็นเหตุให้โดนหาว่าเป็นพวกโง่เง่า (Fools) โดนล้อเลียน โดนแกล้งโดนเล่นมุขต่างๆนานา หลังจากแกล้งไปแกล้งมาก็เลยกลายมาเป็นธรรมเนียมที่จะแกล้งโกหก หรือแกล้งกันในวันที่ ๑ เมษา และเรียกวันนี้ว่า April Fool's Day

ปีนี้เราลองเสิร์ชหาข่าวเกี่ยวกับ April Fool's Day ทางอินเตอร์เน็ตดู ก็พบว่าหนังสือพิมพ์ในสวีเดนเล่นมุขหลอกคนอ่าน เป็นข่าวเรื่องโทรศัพท์มือถือ (ประเทศสวีเดนคือบ้านเกิดของโนเกียอ่ะนะ)

ในข่าวบอกว่า มีนักวิจัยมาเปิดเผยว่าตกลงทุนการวิจัยเป็นล้านๆเหรียญที่ทุ่มลงไปในการพัฒนาโทรศัพท์ G3 (โทรศัพท์เจเนอเรชั่นที่ ๓ ที่นอกจากจะส่งเสียงแล้ว ยังสามารถส่งข้อมูลส่งภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย) ได้ดูท่าจะเสียเปล่า เพราะแค่เอาโทรศัพท์เจนเนอเรชั่นที่ ๒ (G2 หรือโทรศัพท์ระบบจีเอสเอ็มที่บ้านเรามีใชักันอยู่) ไปกดที่หน้าทีวีก็สามารถดูหนังทางจอมือถือได้แล้ว

เขาเอาคำพูดของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทางวิศกรรมมาเปิดเผยว่า นี่เป็นการค้นพบโดยบังเอิญ คือนักวิจัย (สมองเบลอ) ตั้งใจจะตั้งเวลาอัดโปรแกรมวิดีโอ แต่แทนที่จะใช้รีโมทดันเอาโทรศัพท์ไปกดแทน ปรากฏว่ารายการช่องที่เขาเลือกก็ขึ้นมาที่หน้าจอมือถือ ทำเอานักวิจัยงุนงงไปเลยเชียว

หนังสือพิมพ์ยังรายงานต่อไปอีกว่าถ้าเอาโทรศัพท์ G2 มาสั่นๆๆ ให้ได้จังหวะเหมาะพอ ก็จะสามารถเข้าถึงช่องความถี่ของโทรศัพท์ G3 สามารถรับข้อมูลรับภาพได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนโทรศัพท์ (เอ้า... ลองหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาสั่นๆกันดูสิ เผื่อจะเข้าเว็บผ่านมือถือได้มั่ง)

ส่วนอีกอันหนึ่งก็เป็นข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวเกี่ยวกับกูเกิ้ล บอกว่าวันที่ ๓๑ มีนาที่ผ่านมา มีข่าวออกมาว่ากูเกิ้ลจะลงมาเล่นในตลาดของให้บริการฟรีอีเมล์แข่งกับไมโครซอฟท์ (ฮ็อตเมล) กับยาฮู โดยบอกว่าจะตีตลาดแย่งลูกค้าสองเจ้าตลาดนี้โดยให้เนื้อที่เก็บอีเมลที่มากกว่า บริการของกูเกิ้ลประกาศออกมาในชื่อ gmail (www.gmail.com)

ในขณะเดียวกันก็มีประกาศรับสมัครงานที่เว็บไซต์ของกูเกิ้ล รับวิศวกรสำหรับโครงการ Google Copernicus Hosting Environment and Experiment in Search Engineering (GCHEESE) ที่จะต้องไปประจำการที่สาขาประจำดวงจันทร์ (Googlunaplex) ซึ่งจะเปิดทำการในปี ๒๐๐๗

หมายเหตุ: Copernicus เป็นนักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ที่เป็นคนประกาศทฤษฎีว่าโลกและดาวเคราะห์ต่างๆหมุนรอบดวงอาทิตย์ คำว่า cheese หรือ cheesy ในภาษาอังกฤษ แปลประมาณว่า เห่ยๆ ห่วยๆ ถูกๆ และคำว่า cheese ยังเอาไว้พูดเวลาจะให้คนยิ้มเวลาถ่ายรูปอีกด้วย ส่วน Googlunaplex คำว่า lunar คือ ดวงจันทร์ ส่วน lunatic คือคนบ้า

พอเห็นสองข่าวนี้ คนก็ส่งอีเมลโพสต์คำถามกันให้วุ่นว่า กูเกิ้ลฉลอง April Fool's Day หรือเปล่า ในที่สุดรองประธานกรรมการของกูเกิ้ลต้องออกมาให้สัมภาษณ์ ว่าเรื่อง gmail หนะของจริง ส่วนกูเกิ้ลสาขาดวงจันทร์นั้นเป็นการฉลองเอพริลฟูลส์จ้ะ

ตอนที่เราเสิร์ชเรื่อง April Fool's Day เราไปเจอเว็บที่รวบรวมสุดยอดเรื่องโกหกประจำวัน April Fool's Day ที่ Museum of Hoaxes จัดอันดับไว้ทั้งหมด ๑๐๐ เรื่องจากปีต่างๆและประเทศต่างๆ เราเอาตัวอย่างเรื่องที่เพิ่งเกิดไม่กี่ปีนี้มาเล่าให้ฟัง (ให้อ่าน) ส่วนใครสนใจจะอ่านที่เหลือก็ไปที่นี่ อ่านเล่นๆเพลินดีเหมือนกัน

อันดับ ๘ - ในปี ๑๙๙๘ เบอร์เกอร์คิงลงโฆษณาเต็มหน้าในหนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ ว่าเบอร์เกอร์คิงออกรายการอาหารใหม่คือ "วอปเปอร์ถนัดซ้าย" (Left-Handed Whopper) ซึ่งออกแบบมาเฉพาะเพื่อตอบสนองคนคนถนัดซ้าย ๓๒ ล้านคนในอเมริกา วอปเปอร์ถนัดซ้ายมีส่วนผสมหลักเหมือนวอปเปอร์ธรรมดา (ผักกาด มะเขือเทศ เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯ) แต่เครื่องปรุงและซอสจะถูกหมุนไป ๑๘๐ องศาเพื่อให้เหมาะกับคนถนัดซ้าย วันรุ่งขึ้นเบอร์เกอร์คิงลงโฆษณาอีกฉบับประกาศความจริง แถมบอกต่ออีกว่าถึงแม้มันจะเป็นเรื่องโกหก แต่ก็มีลูกค้าเป็นพันๆคนไปที่ร้านเพื่อลองเบอร์เกอร์เมนูใหม่ ในขณะเดียวกันก็มีลูกค้าอีกหลายๆคนระบุอย่างชัดเจนว่าต้องการเบอร์เกอร์เวอร์ชั่นเก่าสำหรับคนถนัดขวาเท่านั้น

อันดับ ๒๑ - ในปี ๒๐๐๒ ซุปเปอร์มาร์เก็ตเทสโก้ในอังกฤษลงประกาศในหนังสือพิมพ์เดอะซันเกี่ยวกับความสำเร็จในการพัฒนาพืชตัดแต่งยีนจนได้ "แครอทนกหวีด" ในโฆษณาบอกว่าแครอทได้ถูกออกแบบทางพันธุกรรมให้โตขึ้นมาโดยมีช่องอากาศอยู่ด้านข้างเหมือนนกหวีด เวลาที่ปรุงสุกแล้วช่องอากาศนี้จะส่งเสียงดังออกมาเหมือนนกหวีด

อันดับ ๒๓ - ในปี ๑๙๙๘ บริษัทเบียร์กินเนสออกประกาศข่าวว่าได้ตกลงกับ the Old Royal Observatory ที่กรีนนิชในประเทศอังกฤษ ว่าเบียร์กินเนสจะเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการให้แก่หอดูดาวแห่งนี้ในการฉลองสหัสวรรษใหม่ และตามข้อตกลงเป็นผู้สนับสนุนหลัก เวลามาตรฐานกรีนนิช (Greenwich Mean Time) จะถูกเปลี่ยนชื่อไปเป็น "เวลามาตรฐานกินเนส" (Guinness Mean Time) หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์เห็นข่าวประกาศนี้ไม่ทันรับมุขของกินเนส ก็รีบด่วน(ด่า)ว่ากินเนสกล้าดีมากเกินไปที่ทำแบบนี้ แต่สุดท้ายพอรู้ว่าตัวเองตกหลุมพราง April Fool's ของกินเนสเข้าแล้ว ก็เข้าเกียร์ถอยหลังแก้ตัว (แบบน้ำขุ่นๆ) ว่าที่วิจารณ์กินเนสไปนั้นเป็นส่วนหนึ่งของตลกวัน April Fool's

อันดับ ๒๔ - ในปี ๑๙๙๔ จอห์น ดวอแร็คเขียนบทความในนิตยสารคอมพิวเตอร์ว่าจะสภาคองเกรสจะผ่านกฎหมายห้ามใช้อินเตอร์เน็ตในขณะมึนเมา หรือห้ามพูดคุยเรื่องเซ็กซ์ในเน็ตเวิร์คสาธารณะ กฎหมายฉบับนี้คือหมายเลข ๐๔๐๑๙๔ (๐๔/๐๑/๙๔ วันที่ ๑ เมษา ๑๙๙๔) คนที่สนใจกฎหมายนี้ให้ติดต่อ Lirpa Sloof (April Fools สะกดถอยหลัง) ในบทความเขาบอกว่าเหตุผลที่กฎหมายฉบันนี้ออกมาก็เนื่องมาจากคำเรียกของอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนเคยได้ยินกันคือ ทางด่วนข้อมูล (Information Superhighway) ว่าถึงแม้มันจะฟังดูงี่เง่า แต่สภาคองเกรสคิดว่า "การมึนเมาบนทางด่วนเป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนแบบไหนก็ตาม" บทความเรื่องนี้ทำให้มีคนโทรไปโวยวายที่สภาคองเกรสมากมาย จนวุฒิสมาชิกเอ็ดเวิร์ด เคนเนดี้ต้องออกประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเขาเป็นคนที่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้

"วันที่หนึ่งของเดือนเมษา เป็นวันที่ทำให้เราจำได้ว่าเราเป็นอะไรใน ๓๖๔ วันที่เหลือของปี" - มาร์ค ทเวน
"The first of April is the day we remember what we are the other 364 days of the year."- Mark Twain.